© Matichon ภาพประกอบข่าว สปสช. เปิดเกณฑ์รักษาโควิดฟรี ด้าน รพ. เอกชน แจงงบฯ ครอบคลุมค่าใช้จ่าย 10-15% วันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีประชาชนจำนวนหนึ่งร้องเรียนเรื่องการถูกเรียกเก็บเงินค่ารักษาโรคโควิดจากโรงพยาบาลเอกชน ผ่านสายด่วน 1330 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ สปสช. ออกมาวอน รพ. เอกชน อย่าคิดเงินผู้ป่วยโควิด พร้อมย้ำว่าภาครัฐพร้อมจ่ายค่ารักษาครอบคลุมทุกกระบวนการ เปิดเกณฑ์รักษาโควิดฟรี ทั้งนี้ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการรักษาผู้ป่วยโควิดฟรี จะมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ว่า กรณีผู้ป่วยโควิดให้สถานพยาบาลรักษาในภาวะฉุกเฉิน จะไม่มีเงื่อนไขในการเรียกเก็บเงินใด ๆ โดย รพ. ที่รับรักษาจะได้รับค่าใช้จ่ายจาก สปสช. ตามที่กำหนดเกณฑ์ค่าใช้จ่ายไว้ อย่างไรก็ตาม หาก รพ. มีความเห็นส่งผู้ป่วยโควิดไปรักษายังสถานพยาบาลที่เห็นสมควร แต่ผู้ป่วยหรือญาติปฏิเสธไม่ขอให้ส่งต่อ หรือประสงค์รักษาพยาบาลที่อื่น เมื่อนั้นผู้ป่วยจะต้องเป็น "ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง" รพ. เอกชน แจงค่าส่วนต่าง ล่าสุด นพ. บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันการรับรักษาผู้ป่วยโควิดของ รพ.
ค่าเก็บตัวอย่างส่งตรวจ 100 บาท/ครั้ง 3. ค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจ 600 บาท/ครั้ง 4. ค่ายารักษาผู้ป่วยใน จ่ายตามจริงไม่เกิน 7, 200 บาท/ราย 5. ค่าห้องดูแลการรักษารวมค่าอาการ จ่ายตามจริงไม่เกิน 2, 500 บาท/วัน 6. ค่าห้องความดันลบหรือห้อง ICU ซึ่งเป็น UCEP COVID-19 หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติถึงแก่ชีวิตกรณีโควิด วันละ 5, 000 บาท 7. ค่าหอผู้ป่วยเฉพาะโควิด-19 และสถานกักกันในโรงพยาบาล (Hospitel) จ่ายตามจริงไม่เกิน 1, 500 บาท/วัน 8. ค่ายานพาหนะรับส่งจ่ายตามคู่มือแนวทางปฏิบัติในการขอรับค่าใช้จ่ายของสำนักงานฯ 9.
5 ล้านบาท โดยราคากลางที่รัฐบาลกำหนดไว้ ไม่เพียงพอต่อต้นทุนของ รพ. เอกชน หากนำราคากลางมาเฉลี่ยกับค่ารักษาพยาบาลใน รพ. เอกชน อาจครอบคลุมเพียง 10-15% จากค่าใช้จ่ายทั้งหมด "ที่ผ่านมามีเคสตรวจเจอเชื้อโควิดที่ รพ. ธนบุรี 10% จากที่ตรวจทั้งหมดต่อวัน ใน 7% เราส่งต่อไปที่ รพ. สนาม หรือสถานพยาบาลอื่น ๆ ส่วนอีก 3% ที่ส่งออกไม่ได้เราต้องรับเคสไว้เอง ซี่งเป็นการรักษาฟรีทั้งหมด โดยทาง รพ. ต้องไปเบิกกับภาครัฐ ซึ่งบางครั้งราคาค่ารักษาสูงกว่าที่ราคากลางกำหนดไว้" เปิดเกณฑ์ราคากลางรักษาโควิด อย่างไรก็ตาม วานนี้ (7 พ. ค. ) นพ. จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช. ) ได้วอน รพ. เอกชน อย่าเรียกเก็บค่ารักษาผู้ป่วยโควิด พร้อมย้ำว่าภาครัฐพร้อมออกค่ารักษาพยาบาลให้แก่ผู้ป่วยทุกคน โดยมีรายละเอียดตามประกาศ สปสช. เรื่อง การขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2564 (ฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม) กำหนดอัตราจ่ายค่าบริการให้แก่โรงพยาบาลทั้งการตรวจและการรักษา รวมไปถึงค่าที่พักอื่น ๆ เช่น โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel ดังนี้ 1. ค่าตรวจแบบ RT-PCR จ่ายตามจริงไม่เกิน 1, 600 บาท/ครั้ง 2.
นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เผยความคืบหน้านำเข้าวัคซีนโควิด 19 ยี่ห้อ โมเดอร์นา จัดหาได้ 10 ล้านโดส คาดราคาค่าบริการ 2 เข็ม ไม่เกิน 4, 000 บาท เร่งให้ทันไตรมาสที่ 3 ภาพจาก Giovanni Cancemi / วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 TNN รายงานว่า นพ. เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการนำเข้า วัคซีนโควิด 19 ทางเลือก ซึ่งจะมีการนำเข้า วัคซีนโมเดอร์นา เข้ามา โดยเป็นการซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรมว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการสั่งซื้อ เบื้องต้นได้มีข้อตกลงกับตัวแทนจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นาว่าจะสามารถจัดหาโควตาวัคซีนได้เพิ่มเป็น 10 ล้านโดส นพ.
-ก. 64 ประมาณ 70% ของประชากร และในเดือนต. 64 จะฉีดเข็มที่ 2 นายธีรพันธ์ ดิษยบุตร รองผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ. โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9) กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลยังคงรอความชัดเจนจากสมาคมโรงพยาบาลเอกชนที่รวบรวมปริมาณความต้องการนำเข้าวัคซีนเพื่อเสนอต่อองค์การเภสัชกรรม ตามขั้นตอนที่ประกาศจากภาครัฐ โดยทางโรงพยาบาลได้ดำเนินการจองวัคซีนไปแล้วหลายยี่ห้อ ซึ่งล่าสุดมีเพียงโมเดอร์น่าที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย. ) อย่างไรก็ตาม จากการประสานงานกับทางผู้นำเข้าวัคซีน ทางโรงพยาบาลคาดว่าจะสามารถทยอยให้บริการฉีดวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนได้ในไตรมาส 4/64 ส่วนราคาวัคซีนคาดว่าทางสมาคมโรงพยาบาลเอกชนจะเป็นผู้กำหนด เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการฉีดวัคซีนทางเลือกได้อย่างทั่วถึง ขณะที่ นายสิทธิวัฒน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โรงพยาบาล อินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ (IMH) กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลมีความสนใจจะสั่งซื้อวัคซีนทางเลือกอย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็น โมเดิร์นนา สปุตนิก วี (Sputnik V) หรือไฟเซอร์ ซึ่งในปัจจุบันยังคงรอความชัดเจนจากทางภาครัฐเรื่องของระยะเวลาในการนำเข้าวัคซีน รวมไปถึงราคาวัคซีนจากบริษัทผู้นำเข้า โดยทางโรงพยาบาลจะพยายามกำหนดราคาที่เหมาะสมให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทั้งนี้ IMH มั่นใจว่าจะมีลูกค้าให้ความสนใจค่อนข้างสูง เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่เข้มแข็งประมาณ 1.