ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ เนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น 5. ผู้ที่เป็นความดันต่ำ เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ลดความดันเลือดได้ 6. สตรีมีครรภ์ ข้อควรระวัง 1. ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว หรือวิงเวียนศีรษะ ใจสั่น ในผู้ป่วยบางราย หากมีอาการดังกล่าว ควรหยุดใช้ฟ้าทะลายโจร 2. หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 3 สัปดาห์ 3. หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้ และไปพบแพทย์ (ตอนต่อไป: สมุนไพรขิง)
เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ ผัก ผลไม้ และถั่วต่างๆ ให้เหมาะสมกับร่างกาย หลีกเลี่ยงการกินอาหารทอด อาหารมัน อาหารรสหวานจัดและเค็มจัด ดื่มน้ำมากๆ และอาจดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยไล่หวัดเสริมไปด้วย เช่น ชาร้อนๆ หรือน้ำขิง เป็นต้น 2. ล้างมือบ่อยๆ ช่วยป้องกันโรค เพราะในแต่ละวันมือของเรานั้นสัมผัสกับสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้คน พื้นผิว และสิ่งของต่างๆ ทำให้มีเชื้อโรคสะสมอยู่มากมาย และเชื้อโรคเหล่านี้ก็สามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้ ถ้าไม่อยากป่วยบ่อยๆ วิธีนี้ก็สามารถช่วยป้องกันได้อีกวิธีหนึ่งนั่นเอง 3. พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอนั้นเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยรักษาร่างกายให้แข็งแรง ห่างไกลโรค เพราะในบางครั้งการเป็นไข้หวัดก็เป็นอาการหนึ่งที่บ่งบอกว่าร่างกายของเรานั้นกำลังอ่อนล้า ไม่แข็งแรง ดังนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อยก็วันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนต่างๆ ให้กลับมาแข็งแรงดังเดิม 4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้สดชื่นและร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดไหลเวียนได้ดี และช่วยป้องกันปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพในวงกว้างได้อีกด้วย 5.
ในยามที่ประชากรไทยเริ่มทยอยเข้ารับวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจนถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2564 สิ้นสุดปลายสัปดาห์ รวมทั้งวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) และวัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) อยู่ที่ 4, 218, 094 โดส แน่นอนว่า หลังเข้ารับวัคซีนแล้ว... ก็ย่อมพบ "อาการไม่พึงประสงค์" หรือ "ผลข้างเคียง" อื่นๆ ตามมา "ผลข้างเคียง" หรือที่เรียกว่า Side Effect นั้น กำลังส่งสัญญาณอะไร?
ยืนยันอีกว่า หากคุณไม่แน่ใจว่าใช่อาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนโควิด-19 จริงหรือไม่ ให้ติดต่อแพทย์แล้วส่งเรื่องมาก่อนได้เลย โดยตลอดที่ผ่านมา การดำเนินการเบื้องต้นอาการมีตั้งแต่เป็นไข้, ปวดแผล หรือชา หรือบางรายต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล "ตอนนี้รับเรื่องในส่วน สปสช. จะแตกต่างจากจำนวนที่แท้จริง คือ ในช่วง 2 สัปดาห์แรกที่เริ่มเปิดให้มีการส่งเรื่องเข้ามา จนถึงเมื่อวานนี้ (2 มิ. ย. 64) มีการรับเรื่องมาแล้วประมาณ 250 ราย และชดเชยไปแล้วประมาณ 150 ราย โดยอาการไม่พึงประสงค์ที่มีการชดเชยไป ส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่ต้องนอนโรงพยาบาล และเกินกว่า 50 ราย มีอาการชา บางส่วนมีอาการชาแล้วเป็นนานเกินเดือนหรือ 2 เดือน เพราะบางรายก็มีอาการตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ นอกนั้นเป็นอาการคลื่นไส้, อ่อนเพลีย และอาเจียน เป็นต้น" ทั้งนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลของ สปสช. ล่าสุด ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2564 หรือช่วง 3 สัปดาห์หลังเปิดรับเรื่องยื่นขอชดเชยที่เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 พบว่า มีผู้ยื่นเรื่องทั้งหมด 344 ราย โดยทาง สปสช. ดำเนินการจ่ายชดเชยแล้ว 239 ราย รวม 3, 016, 700 บาท และรอข้อมูลอีก 61 ราย ไม่จ่าย 44 ราย ในส่วนกรณีการเสียชีวิตนั้น สปสช.
ใช้ในรูปยาลูกกลอน โดยนำใบและกิ่งมาล้างให้สะอาด ผึ่งลมให้แห้ง บดให้เป็นผง ปั้นผสมกับน้ำผึ้งเป็นเม็ดขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ผึ่งให้แห้ง รับประทาน ครั้งละ 3-6 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน 3. ใช้ในรูปยาแคป ซูล โดยใช้ผงใบและลำต้นบรรจุลงในแคปซูล ใช้รับประทานก่อนอาหารและก่อนนอน เพื่อให้สะดวกในการรับประทาน เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีรสขมมาก จึงนิยมใช้ในรูปยาลูกกลอนและรูปยาแคปซูล 4. ใช้ในรูปยาดองเหล้า นำใบฟ้าทะลายโจรแห้งขยำให้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในขวดแก้ว แช่ด้วยเหล้าโรงพอท่วมยา ปิดฝาให้แน่น เขย่าขวดหรือคนยาวันละครั้ง เมื่อครบ 7 วัน กรองเอาแต่น้ำเก็บไว้ในขวดที่มิดชิดและสะอาด รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละ 3-4 ครั้งก่อนอาหาร 5. ใช้ใบค่อนข้างแก่ประมาณ 1 กำมือ ตำผสมเกลือเล็กน้อย เติมเหล้าครึ่งถ้วยยา น้ำครึ่งช้อนชา คนให้เข้ากันแล้วรินเอาน้ำดื่ม ส่วนกากที่เหลือนำไปใช้พอกแผล-ฝี แล้วใช้ผ้าสะอาดพันไว้ ข้อห้าม ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A 2. ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบ เนื่องจากเคยติดเชื้อ Streptococcus group A 3. ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติค 4.
หลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณแอลกอฮอล์ทุกชนิด เมื่อทานแอลกอฮอล์เข้าไปสู่ร่างกายจะมีผลโดยตรงกับระบบภูมิคุ้มกัน และยังส่งผลให้เกิดการอักเสบขึ้นในร่างกายได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย รู้แบบนี้แล้วงดได้ก็งดเพื่อสุขภาพที่ดีของเรา การเป็นหวัดเรื้อรัง สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น จากอาการภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ มีสิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก หรือเกิดการติดเชื้อซ้ำไปซ้ำมา ดังนั้นลองสังเกตอาการป่วยของตัวเองแล้ว ถ้ารู้สึกว่าอาการไม่ดี หรืออาการไม่ดีขึ้นหลังจากทานยาไปแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด